ออฟฟิศซินโดรม (office
syndrome) โรคยอดฮิตของใครหลายคน
เคยไหมเวลานั่งทำงานหรือทำกิจกรรมบางอย่างเป็นเวลานานๆ มักจะมีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ หลัง
บางคนมีอาการปวดถึงขั้นมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
อาการเหล่านั้นเรียกว่า ออฟฟิศซินโดรม
ออฟฟิศซินโดรม(office syndrome) คืออะไร ?
ออฟฟิศซินโดรม(office syndrome) คืออาการปวดจากการใช้งานของกล้ามเนื้อมัดเดิมต่อเนื่องเป็นเวลานาน
ซึ่งเป็นกลุ่มอาการทางกล้ามเนื้อและกระดูกสันหลังเนื่องจากการใช้งานที่ไม่เหมาะสม
จนทำให้เกิดอาการปวดและเยื่อพังผืดจนกลายเป็นปวดเรื้อรังได้ อันเกิดจากการที่เส้นประสาทส่วนปลายในแต่ละตำแหน่งถูกกดทับอย่างต่อเนื่อง
สาเหตุของออฟฟิศซินโดรม(office syndrome)
สภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่เอื้ออำนวยไม่เหมาะสม เป็นสาเหตุหลักของโรคนี้ ไม่ว่าจะเป็นท่านั่งทำงานที่ไม่เหมาะสม
ทำให้กล้ามเนื้อหดตัวอยู่ตลอดเวลาและกล้ามเนื้อตึงมากขึ้นส่งผลให้เกิดอาการปวดเกร็งสะสมขึ้นเรื่อยๆ
อาการของออฟฟิศซินโดรม(office syndrome)
ออฟฟิศซินโดรม(office syndrome)มีหลากหลายอาการที่เด่นชัดคือ ปวดคอ ปวดบ่า ไหล่ ปวดหลัง ปวดหัวเข่า
รู้สึกชาที่บริเวณแขน ขา ปลายนิ้ว เส้นเอ็นบวมอักเสบ กล้ามเนื้อตึงล้า บางรายอาจมีอาการปวดศีรษะ
ปวดท้ายทอย ตาแห้ง อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ และซึมเศร้าร่วมด้วย
การรักษาออฟฟิศซินโดรม(office syndrome)
เนื่องจากมีผู้ป่วยจำนวนมากที่เป็นโรคนี้ บางคนมีอาการรุนแรงจนกระทั่งมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน การรักษาออฟฟิศซินโดรมก็มีหลากหลายวิธีและแตกต่างกันไป
ขึ้นอยู่กับบริเวณที่มีอาการ มีทั้งการใช้ยาในการรักษา การทำกายภาพบำบัด การบริหารร่างกาย หรือการรักษาแบบทางเลือก เช่นการฝังเข็ม หรือการทำเลเซอร์
ที่ศรินยาคลินิกมีการใช้นวัตกรรมเครื่องมือแพทย์ในการรักษาอาการออฟฟิศซินโดรม ลดอาการปวด คอ บ่า ไหล่
(อ้างอิงรูปภาพ https://www.euroscalemed.pl/wpcontent/uploads/2022/07/xt2.jpg.pagespeed.ic.EeutAGJUks.jpg)
Tesla former กับการรักษาออฟฟิศซินโดรม (office syndrome)
ศรินยาคลินิกใช้เครื่องมือ Tesla former ในการรักษาผู้ป่วยออฟฟิศซินโดรม(office syndrome)ที่มีอาการ ปวดคอ บ่า ไหล่
Tesla former เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic)กระตุ้นกล้ามเนื้อเฉพาะจุด
โดยการส่งคลื่นแม่เหล็กลงไปตามกล้ามเนื้อเล็กและใหญ่แต่ละมัด กระตุ้นให้กลุ่มกล้ามเนื้อหดเกร็งและคลายเป็นจังหวะแบบอัตโนมัติ
เทียบเท่าการทำกายภาพบำบัดหรือการออกกำลังกาย จึงช่วยลดอาการปวดและสลายพังผืด
ทำให้ผู้ป่วยอาการดีขึ้นและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ