เรื่องผิวหน้าหย่อนคล้อย ผิวไม่กระชับ เรียกได้ว่าเป็นปัญหากวนใจของคนทุกเพศทุกวัยเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีอายุมาก ความหย่อนคล้อยก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้นเพราะผิวหนังและกล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแอลง ส่วนคนที่อายุยังน้อยนั้นก็มีปัญหาความหย่อนคล้อยได้เช่นกัน บทความนี้จะมาพูดถึงวิธีแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยด้วย 7 อันดับวิธียกกระชับใบหน้าที่ดีที่สุด มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
การออกกำลังกายบริหารเหนียงจะช่วยกระชับใบหน้าได้ เพราะจะช่วยเผาผลาญไขมันที่สะสมอยู่ใต้คาง และทำให้กล้ามเนื้อบริเวณใต้คางแข็งแรงขึ้นซึ่งส่งผลให้ผิวกระชับขึ้นได้นั่นเอง
ท่าออกกำลังกายลดเหนียงที่แนะนำ
- ท่ายืดกรามหรือดันกราม
- ท่าจูบอากาศ
- ท่าแลบลิ้น
- ท่ายืดคอ
- ท่าดันลิ้นแตะฟัน
ข้อดี
- เป็นท่าบริหารง่ายๆ ทำได้ไม่ยาก สามารถทำได้ทุกคน
- ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ ทำให้ไม่มีค่าใช้จ่าย
- นอกจากจะช่วยลดเหนียงให้กระชับแล้ว ยังช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อส่วนคอด้วย
ข้อเสีย
- ถึงจะเป็นท่าบริหารง่ายๆ แต่ถ้าหากออกกำลังกายผิดวิธีหรือทำอย่างหักโหมมากเกินไปก็อาจเกิดการบาดเจ็บได้
- เห็นผลได้ช้า ใช้เวลานาน ต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
- เหนียงที่เกิดจากพันธุกรรมอาจจะไม่เห็นผล
2. นวดหน้า และเลือกใช้ Skin Care กลุ่มยกกระชับ
การนวดหน้าก็เป็นอีกหนึ่งวิธีธรรมชาติที่ช่วยยกกระชับหน้าได้ เพราะมีส่วนช่วยให้กล้ามเนื้อบนใบหน้าแข็งแรงขึ้น สามารถใช้มือนวดหรือเลือกใช้อุปกรณ์สำหรับการนวดหน้าก็ได้เช่นกัน ยิ่งถ้าการนวดหน้าควบคู่ไปกับการใช้สกินแคร์ที่ช่วยลดริ้วรอยและยกกระชับแล้วล่ะก็จะเห็นผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
ผลิตภัณฑ์แนะนำสำหรับการนวดหน้า
- เครื่องนวดหน้า
- ครีมแอนตี้-เอจจิ้ง
ข้อดี
- ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและต่อมน้ำเหลือง
- ช่วยให้สกินแคร์ซึมเข้าสู่ผิวมากขึ้น
- ช่วยผลัดเซลล์ผิวและขจัดสิ่งสกปรกบนใบหน้าที่ก่อให้เกิดสิวได้
- ช่วยทำให้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อใบหน้า
- ช่วยป้องกันริ้วรอย ลดความหมองคล้ำ และกระชับใบหน้าได้
ข้อเสีย
- การนวดและทาครีมเป็นการยกกระชับแค่ภายนอกเท่านั้น อาจช่วยกระชับไม่ได้มาก
- อาจมีสิ่งสกปรกตกค้างบนใบหน้าหากไม่ล้างมือหรือทำความสะอาดเครื่องนวดหน้าให้ดี
- การใช้อุปกรณ์ที่ไม่เหมาะสม รวมไปถึงใช้สกินแคร์ที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้ใบหน้าเสียหายได้
3. ร้อยไหมลิฟต์กรอบหน้า
ถ้าพูดถึงวิธียกกระชับหน้าแล้ว หลายๆคนคงนึกถึงการร้อยไหมอย่างแน่นอน เพราะถือเป็นหนึ่งในหัตถการยอดนิยมที่ช่วยแก้ปัญหาต่างๆบนใบหน้าได้ ทั้งลดความหย่อนคล้อย จัดกรอบหน้าให้เข้ารูป และช่วยลดริ้วรอย ซึ่งการร้อยไหมนั้นมีหลักการทำงานโดยใช้เข็มนำเส้นไหมมาร้อยเข้าที่ชั้นใต้ผิวหนังบนใบหน้าเพื่อกระตุ้นคอลลาเจนให้มาล้อมรอบที่ไหม หลังจากนั้นไหมจะสลายไปเหลือไว้เพียงแค่คอลลาเจนที่ผิวสร้างไว้เท่านั้น คอลลาเจนที่เหลืออยู่ก็จะเป็นตัวฟื้นฟูสภาพผิวให้เรียบเนียน เต่งตึง และกระชับใบหน้าได้นั่นเอง
ข้อดี
- ช่วยแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อย ยกกระชับกรอบหน้าให้ชัดขึ้น
- เป็นการฟื้นฟูในระดับชั้นใต้ผิวหนังทำให้ผิวสุขภาพดีจากภายใน จึงได้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดและอยู่ได้นาน
- ใช้ไหมที่ละลายได้เองตามธรรมชาติ
ข้อเสีย
- ต้องดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังทำการร้อยไหม โดยเฉพาะหลังร้อยไหมจะรู้สึกตึงและไม่สามารถขยับหน้ามากๆ ได้ประมาณ 2 สัปดาห์
- ไม่เหมาะสำหรับคนกลัวเข็ม
- ไหมแต่ละชนิดมีราคาแตกต่างกันไป ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงได้
- หากทำหัตถการในสถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐานอาจมีความเสี่ยงที่จะหน้าพังหรือเกิดผลข้างเคียงรุนแรงแพทย์ต้องมีความชำนาญ ถ้า ร้อยในชั้น ที่ตื้นไป หรือลึกไป อาจได้ผลลัพธ์ที่ไม่ชัดเจน และ เกิดรอยยุบบนผิวหนังได้
4. ทำหัตถการกลุ่ม ฉีดสารที่ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว
การฉีดสารที่ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว โดยจะฉีดเข้าไปตามจุดบนใบหน้าส่งผลให้กล้ามเนื้อทำงานลดลงชั่วคราวช่วยลดริ้วรอยเวลาแสดงสีหน้า เช่น ตีนตา ริ้วรอยขวางบริเวณหน้าผาก ริ้วรอยเวลาขมวดคิ้ว
ข้อดี
- ช่วยทั้งยกกระชับ ปรับกรอบหน้า ลดกราม ลดริ้วรอย หรือใช้ในการรักษาไมเกรนได้
- ใช้เวลาฉีดไม่นาน และเห็นผลไว
- ราคาไม่แพง
- บวมช้ำน้อย พักฟื้นไม่นาน
ข้อเสีย
- ไม่เหมาะกับคนกลัวเข็ม
- หากแพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญ ผลลัพธ์อาจไม่สวยตามที่ต้องการ หรือการฉีดสารกระตุ้น คุณภาพไม่ดี อาจทำให้ผลอยู่ไม่นาน และดื้อยาได้
5. การทำ Thermage
Thermage คือเครื่องช่วยกระชับผิวชั้นลึก กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนกับอิลาสติน ทำให้โครงสร้างผิวกลับมาตึงกระชับ ลดปัญหาความหย่อนคล้อย ลดไขมันสะสมใต้ผิว เหมาะสำหรับการปรับรูปหน้าให้เรียว กรอบชัด ปรับผิวให้เรียบเนียน กระชับ ทำได้ทั้งผิวหน้า ดวงตา ลำคอ เนินอก หลังมือ และเรือนร่าง
ข้อดี
- เป็นการยกกระชับผิวที่มีประสิทธิภาพสูง โดยไม่ต้องผ่าตัด พักฟื้นเพียงเล็กน้อยหรือไม่ต้องพักฟื้นเลย
- เห็นผลการรักษาทันทีและเห็นผลลัพธ์เต็มที่ในเวลาประมาณ 4-6 เดือน
- ทำเพียงครั้งเดียว คงผลลัพธ์ได้นานถึง 1 - 1.5 ปี
- สามารถทำได้ในคนทุกสีผิว แม้คนผิวสีเข้ม
- ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่เหมือนการยกกระชับบางวิธี ที่มีผลทำให้รูปหน้าผิดเพี้ยน
ข้อเสีย
- ขณะทำ Thermage จะมีอาการเจ็บ ปวดตึงๆ มากกว่าการทำ Hifu
- หลังทำเสร็จอาจเกิดรอยแดงหรือรอยนูน ซึ่งสามารถหายเองได้หลังจากนั้น 1-2 ชั่วโมง
6. การทำ Ulthera
“Ulthera” คือ วัตกรรมยกกระชับผิวให้เด้ง เต่งตึง ด้วยนวัตกรรมฟื้นฟูผิวจากชั้นลึก ยกกระชับ ให้ผิวให้ดูอ่อนวัยขึ้น ทั้งใบหน้าและลำคอ ผ่านคลื่นอัลตร้าซาวด์ พลังงานสูง ปล่อยคลื่น ออกมาเป็น Dot เล็กๆ ที่ผิวหนังของเราให้ เกิดการยกกระชับ ไม่ต้องผ่าตัด ผลลัพธ์ที่ได้ก็คล้ายกับศัลยกรรมดึงหน้า
ข้อดี
- เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่ามีความปลอดภัยสูง
- เหมาะสำหรับคนกลัวเข็มหรือกลัวการผ่าตัด
- สามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
- ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 8-12 เดือน
- ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
ข้อเสีย
- ขณะทำ Ulthera จะรู้สึกเจ็บๆ ปวดๆ แม้ว่าจะใช้ยาชาแล้วก็ตาม
- บางรายมีอาการบวมแดง หรือรอยแดง ซึ่งสามารถหายได้ภายใน 1 ชั่วโมง
7. โยคะยกกระชับผิว
พูดถึงโยคะแล้ว หลายๆ คนคงนึกถึงการยืดแขนยืดขาที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย แต่รู้หรือไม่ว่าใบหน้าก็สามารถทำโยคะได้เช่นกัน ซึ่งจะแตกต่างจากการออกกำลังกายบริหารเหนียงตรงที่โยคะใบหน้าจะเน้นทำเพื่อความผ่อนคลาย โดยอาศัยการควบคุมลมหายใจร่วมด้วย มาดูตัวอย่างท่าที่ใช้สำหรับการทำโยคะเพื่อยกกระชับผิวกันได้เลย
- ท่าหายใจคลื่นทะเล
- ท่าลมหายใจหน้าใส
- ท่าเป่าลูกโป่ง
ข้อดี
- เป็นวิธียกกระชับแบบธรรมชาติ ไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์หรือตัวยา
- ช่วยฝึกลมหายใจ ได้ทั้งความผ่อนคลายและกระตุ้นการไหลเวียนเลือด
- เสริมสร้างความแข็งแรงของใบหน้าได้จากภายใน
ข้อเสีย
- เหมือนกับการออกกำลังกายที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
- เห็นผลช้า ใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล
- หากทำท่าผิดวิธีอาจไม่เห็นผลหรืออาจเกิดการบาดเจ็บได้